ดูวันหมดอายุเครื่องสำอางเกาหลียังไง ?
20 เมษายน 2560 Thailand
|
| ดูวันหมดอายุเครื่องสำอางเกาหลียังไง ? |
วิธีดูวันผลิตและวันหมดอายุของเครื่องสำอางเกาหลีง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
โพสนี้เอาใจสาวก K-beauty ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์เอย บอดี้แคร์ และอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีข้อสงสัยกันว่า เอ๊ะ...ไอครีมบำรุงที่เราใช้เนื่ย มันใช้ได้นานแค่ไหน? ผลิตเมื่อไหร่? ใกล้หมดอายุหรือยัง? เพราะลำพังเห็นแต่เลขที่ปรากฎอยู่บนกล่อง บนซอง บนขวด เราก็ไม่รู้ใช่ม่ะ? ว่ามันคือเลขวันผลิตหรือเลขวันหมดอายุกันแน่? เ
พราะเหล่าฉลากสกินแคร์ หรือกล่องบรรจุนั้นส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นภาษาเกาหลีล้วน ๆ ทั้งนั้นเลย!!?
หืม. . .ไม่ต้องกังวลไป วันนี้โบได้ฤกษ์ดีมาแชร์และแบ่งปันข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อสกินแคร์ และเครื่องสำอางเกาหลี ฉะนั้นก่อนที่จะไปอ่านหัวข้อแรกนั้น แนะนำให้วิ่งไปหยิบเหล่าสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางเกาหลีที่คุณมีตอนนี้มาอ่านควบคู่กันไปเลย
1. วันที่ผลิต - วันหมดอายุของเครื่องสำอางเกาหลี
 | |
|
แน่นอนแล้วว่าสัญชาตญาณนักช้อปเวลาเห็นพวกเครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอมและอะไรอื่น ๆ นั้นจะต้องมองหาวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก่อนอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะพวกงาน Sale งาน Clearance งานโล๊ะสต็อค หรือแม้แต่โปรโมชั่นที่ยั่วยุ ดึงดูดใจและเงินในกระเป๋า ว่าแล้วก็ทดลองหยิบเครื่องสำอางเกาหลีที่คุณมีมาซักหนึ่งชิ้น แล้วมองหา
제조 (Jae-jo) หรือ Manufactured Date ตัวย่อ MFG / MFD แปลว่า วันที่ผลิต
까지 (Kka-ji) หรือ Expiration Date ตัวย่อ EXP แปลว่า วันหมดอายุ
사용기한 (Sa-yong Ki-han) หรือ Best Before Date ตัวย่อ BB/BBE แปลว่า ควรบริโภค/เปิดใช้ก่อนวันที่
โดยตามหลักสากลจะใช้ฟอแมทเดียวกันคือ YYYY/MM/DD หรือ ปี(ค.ศ.)/เดือน/วันที่ บางฉลากนั้นก็พอจะเดาออกได้ง่ายถ้าหากมี วันที่มาให้สองชุด ทั้งวันที่ผลิตและวันหมดอายุ ซึ่งวันเดือนปีที่มากกว่านั้นก็คือ "วันหมดอายุ" นั่นเอง
 | |
2. เปิดแล้วจะใช้ได้อีกนานแค่ไหน ?
หลาย ๆ คนคงมักจะเคยเห็นเจ้าสัญลักษณ์กระปุกที่มีฝาเปิด พร้อมตัวอักษรระบุ 6M/12M/18M อยู่ด้านหลังผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งเจ้าสัญลักษณ์ PAO นี้ นั้นหมายถึง อายุการใช้งานที่เหลือหลังเปิดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเอง หรือพูดง่าย ๆ ว่าเมื่อคุณเปิดฝาหรือเปิดใช้งานครีมกระปุกนี่แล้ว คุณจะสามารถใช้ได้ต่ออีกแค่ x เดือน เท่านั้น
|
 | |
|
ระยะเวลาในการใช้งานของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์บางอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บด้วย อาทิเช่น สกินแคร์บางชนิดนั้นจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้อุณหภูมิต่ำหรือในตู้เย็นเท่านั้น สกินแคร์บางชนิดนั้นสามารถเก็บรักษาได้ที่อุณหภูมิปกติหรืออุณหภูมิห้อง สกินแคร์บางชนิดห้ามเก็บไว้ในพื้นที่ ๆ โดนแสงแดด เป็นต้น
เรามาดูกันว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สกินแคร์เกาหลีประเภทต่าง ๆ นั้นจะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน ?
- ผลิตภัณฑ์ประเภททำความสำอางหรือคลีนเซอร์ อาทิเช่น โฟม, ออยล์, เช็ดล้างและผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว Exfoliator เป็นต้น
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 36 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 12 เดือน
- ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงหรือสกินแคร์ อาทิเช่น ครีมกันแดด, เซรั่ม, มอยส์เจอร์ไรเซอร์, โทนเนอร์, เอสเซ้นส์ และ Eye Cream เป็นต้น
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 30 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 12 เดือน
- ผลิตภัณฑ์ประเภทมาส์กแผ่น หรือ Sheet Mask
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 12 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : หมดอายุทันทีหลังใช้งาน
- ผลิตภัณฑ์ประเภทแพ็ค อาทิเช่น มาส์กหน้าแบบล้างออก หรือ Wash-off Mask, มาส์กโคลน เป็นต้น
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 30 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 12 เดือน
- ลิปสติก, ลิปกลอส ลิปบำรุงต่าง ๆ
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 30 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 6-18 เดือน
- แป้งต่าง ๆ อาทิเช่น แป้งฝุ่น, แป้งโปร่งแสง, แป้งลงรองพื้น และแป้งพัฟ เป็นต้น
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 60 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 36 เดือน
- มาสคาร่า, อายไลเนอร์, เจลอายไลเนอร์
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 24 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 6 เดือน
- เบส, รองพื้น, ปัดแก้ม, ไพร์เมอร์, คอนซีลเลอร์ และอายชาโดว์
ก่อนเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 36 เดือน
หลังเปิดใช้งาน : อายุผลิตภัณฑ์ 12 เดือน
 |
| วันหมดอายุ/วันผลิตเครื่องสำอางเกาหลี |
หวังว่าต่อไปนี้เพื่อน ๆ จะได้รู้วิธีการอ่านวันหมดอายุ/วันผลิต บนฉลากผลิตภัณฑ์ภาษาเกาหลีได้อย่างแน่นอน แต่มันก็คงจะยากใช่ม่ะสำหรับการสั่งซื้อเครื่องสำอางเกาหลีผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ เพราะยังไงเราก็ไม่สามารถเห็นหรือสัมผัสสินค้านั้น ๆ ด้วยตาของเราเองก่อนที่จะทำการสั่งซื้อ???!!!
แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าหากใครกำลังคิดหน้า คิดหลัง คิดหนัก ลังเลว่าจะซื้อเครื่องสำอางเกาหลีออนไลน์ดีไหม? หรือไปซื้อที่ช้อปดีกว่า? เอ๊ะ แต่ในเว็บออนไลน์ราคาถูกกว่าตั้งเท่าตัวเลยนะ !!!
 | |
วันหมดอายุ/วันผลิตเครื่องสำอางเกาหลี
|
หมดกังวลไปได้เลย เพียงแค่ก่อนที่เพื่อน ๆ จะทำการสั่งซื้อเครื่องสำอางเกาหลีจากเว็บไซต์ออนไลน์ เพื่อน ๆ ต้องเข้าไปเช็คนโยบาย ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขของเว็บไซต์นั้น ๆ ว่ามีการรับประกันการันตีในตัวสินค้าหรือไม่? หรือสามารถส่งคืน ได้หรือเปล่า? แค่นี้เอง...
ฉะนั้น เลิกคิดมากได้แล้วล่ะ การช้อปเครื่องสำอางออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป ไปค่ะ! ไปช้อปกัน!!!!
ขอบคุณที่แวะมาอ่านจ้า คนเขียนหายเหนื่อยละ
สำหรับใครสนใจอยากลองช้อปสกินแคร์ เครื่องสำอางเกาหลี ส่งตรงจากเกาหลีแบบไม่มีภาษีละก็ สามารถสมัครได้ที่ลิ้งค์นี้ https://share-th.althea.kr/x/Qu5l6a เพื่อรับส่วนลดทันที 20% สำหรับรายการสั่งซื้อแรก
บ๊ะบาย,
ประสบการณ์โดนเซอร์ไพรส์ + ฉลองวันเกิดจัดเต็มมัลติคอร์สสไตล์ฝรั่งเศสที่ Marco Creative Cuisine
16 เมษายน 2560 1, Lebuh Bandar Utama, Bandar Utama, 47800 Petaling Jaya, Selangor, Malaysia
เพิ่งจะว่างมีเวลามาอัพบล็อก ไหน ๆ ก็เอาฤกษ์เอาชัยเขียนบล็อกวันเกิดที่ผ่านมาเลยแล้วกัน โดยวันเกิดปีนี้มีแพลนจะกลับไทย เลยบอกเจ้านายว่าวันเกิดไม่อยู่นะ จะเลี้ยงอะไรก็รีบเลี้ยง เดี๋ยววันเกิดแล้วจะไม่อยู่ 55 พอมาถึงวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน ก่อนที่จะลายาวกลับไทย เจ้านายก็พาทุกคนในทีมไปจัดทีมบอนดิ้ง (ที่ทำงานจะมีทีมบอนดิ้งเดือนละครั้ง ประมาณทำกิจกรรมร่วมกันอะไรก็ได้ ในงบที่ทางบริษัทจัดให้ในวันทำงานปกติ แต่ไม่ต้องทำงาน งงมั้ย? 555
ที่ผ่านมาก็มีไปช้อปปิ้ง กินบุฟเฟ่ต์, ไปทำเวิคช้อปในเวลาทำงานแล้วก็ต้องกลับมาออฟฟิตก่อนเวลาจะเลิกงาน) ซึ่งทีมบอนดิ้งธีม-ของวันนี้คือ สีเขียว (เนื่องจากเป็นสีที่เจ้าของวันเกิดชอบนั่นเอง 55) และสถานที่ที่เราจะไปนั่นก็คือ Marco Creative Cuisine ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ที่มีความน่าสนใจก็คือ จะเสริฟอาหารแบบมัลติ-คอร์ส (Multi-Course Meal) ซึ่งคอนเซปของร้านนั้นก็เป็นเสมือนการเดินทางของรสชาด อาหารต่าง ๆ หรือ The Journey of Flavours นั่นเอง
มาดูบรรยากาศภายในร้านกัน ซึ่งคอนเซปของการตกแต่งร้านนั้นก็ต้องเป็นกลิ่นอายของร้านอาหารฝรั่งเศสแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งดอกไม้ โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้แต่กลิ่นภายในร้าน รู้สึกสดชื่นแบบบอกไม่ถูก
 |
| Jelly fish @Marco Creative Crusine / Photo taken by fishmeatdie.blogspot.com |
และสิ่งที่เรียกว่าดึงสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมานั้นได้ดี นั้นก็คือ เจ้าตู้แมงกระพรุนที่ตั้งเด่นอยู่ทางเข้าหน้าร้าน เอาจริง ๆ เกิดมาก็ไม่เคยเห็นแมงกระพรุนที่ยังมีชีวิตอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ เคยเห็นแต่ในหนังหรือสารคดี และก็ไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนสีได้ด้วยอ่ะ
 |
| Bokoaz @Marco Creative Cuisine / Photo taken by Fishmeatdie.blogspot.com |
ก่อนจะเริ่มทาน ทางเราได้รับเกียรติจากผู้ก่อตั้งร้าน คุณ Alice มาต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งอธิบายความเป็นมาอย่างคร่าว ๆ รวมไปถึงคอนเซ็ปของร้านอาหาร ซึ่งอาหารที่คุณจะได้รับในคอร์สนั้น
คุณ Alice ได้บอกว่า ทุก ๆ จานนั้นเป็นการคัดสรรและออกแบบมาได้อย่างสร้างสรรค์ ลงตัว ด้วยฝีมือการคิดค้นของเชฟคนดังอย่าง เชฟ Daren Leong ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ของอาหารแต่ละจานที่ยกมาเสริฟให้ถึงบนโต๊ะ
รอ ร้อ รอ. . . หนูหิวแล้วค่า เชฟขา
 |
| Velvety Matcha-Lime Shooter @Marco Creative Cuisine |
และแล้วเมนูแรกก็มาถึงที่โต๊ะ ซึ่งมาในถ้วยกาแฟขนาดกลาง มันคือ Palate Cleanser คือเมนูล้างปาก ล้างทุกอย่างที่เคยกินไปก่อนหน้านี้ มีชื่อเรียกว่า Velvety Matcha-Lime Shooter เป็นฟองมะนาว โรยด้วยผงชาเขียวมัชชะ แน่นอนว่า มันมีความเปรี้ยว แต่ไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดขนาดนั้น ตักหมดถ้วยแล้วแล้วมีความรู้สึกหิวโหย และถวิลหาจานต่อไปเป็นอย่างยิ่ง
ปล. พนักงานที่นี้เค้าจะไม่ยกจานต่อไปมาเสริฟ ถ้าหากคุณยังทานไม่หมดนะ ฉะนั้น ถ้าใครรอถ่ายรูปหลาย ๆ จานพร้อมกันละก็ อดเลย เพราะที่นี่ เน้นถึงความสดใหม่ เสร็จจากมือเชฟปุ๊บ ก็ต้องรีบเสริฟปั้บ
 |
| Savoury Éclair @Marco Creative Cuisine |
เมื่อมีเมนูล้างปากแล้ว เมนูต่อไปนั้นก็คือ เมนูเรียกน้ำย่อย หรือ Appetiser นั่นเอง เจ้าจานนี้มีชื่อว่า Savoury Éclair เป็นเอแคลร์ กรอบ โรยด้วยไข่ปลาคาเวียร์ และมะเขือเทศอบแห้ง รสชาดลงตัว ผ่าน
 |
| Truffled Mushroom Soup @Marco Creative Cuisine |
เมนูต่อไป นั้นก็คือ เมนูซุป ซึ่งโบได้เลือกเป็น ซุปเห็ด Truffled Mushroom Soup (ไม่ใช่ซุปเห็ดโคนแบบบ้านเรานะ อิอิ) ซึ่งในส่วนของซุปนั้น เราสามารถเลือกได้จาก 3 ซุปที่ทางร้านได้กำหนดให้ นั้นก็คือ Strawberry Gazpacho, French Onion Soup และก็ Truffled Mushroom Soup ซึ่งซุปเห็ดที่โบเลือกนั้นเป็นอะไรที่กลมกล่อมมาก
ปกติชอบกินซุปเห็ดมาก แต่ซุปเห็ดที่นี่เป็นอะไรที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยลองมา
 | |
ในที่สุดก็มาถึง (ก่อน) จานหลักหรือ Entrée (อองเทร) กันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า Entrée ก็มีให้คุณเลือกถึง 3 เมนูด้วยกัน ได้แก่ Chicken Liver Parfait, Garden Plater และก็ Savoury Ice Cream Salad และแน่นอนจานหลักที่โบเลือกนั้นก็คือ Savoury Ice Cream Salad ซึ่งไอศครีมอร่อยมาก แอบเสียใจที่ให้มานิดนึง อร่อยจริง ๆ ทานกับผักสลัดที่ให้มา แต่บอกเลยนี่แค่จานที่ 4 นะ ยังมีอีก ใจเย็น ๆ
|
 | |
|
ไฮไลท์ของเราก็มาถึงที่จานหลักจริง ๆ หรือ Main กันแล้ว และที่โบสั่งมานั้นก็คือ Salmon with Jet Black Hollandaise ปลาแซลม่อนที่มาพร้อมกับซอสน้ำหมึกดำ (Squid Ink) อันนี้รสชาดก็บรรยายไม่ถูกอะ แต่รู้ว่ามันอร่อยมากกกกกกก ทานกับซอสสีเขียว ๆ นั้นเข้ากันดีสุด ๆ
ในส่วนของจานหลักนั้นที่ร้านได้ออกแบบมาให้ถึง 6 เมนู ซึ่งสำหรับใครไม่ชอบทานปลา สามารถเลือกเป็นผัก ปลาหมึก ไก่ หรือพาสต้าซีฟู้ดได้ตามความต้องการเลย
 | |
|
เดินทางมาที่เมนูสุดท้าย ซึ่งจะเป็นอะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ของหวานใช่ม่ะ และของหวานที่โบเลือกมานั้นก็คือ Deconstructed Lemon Meringue Pie เมอร์แรงพายรสมะนาว ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา เข้ากันได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม Sparkling Iced Berry ให้ความสดชื่นตบท้ายจบคอร์สอาหารได้อย่างสวยงาม
 | |
|
พอทานจานสุดท้ายเสร็จแล้ว พนักงานดันมาเสริฟอีกจานนึง โบนี่กรี้ดเลยค่ะ เพราะมันคือจานพิเศษ ซูเฟร่ Happy Birthday ที่เชฟ Daren เป็นคนทำให้พิเศษกะมือ มอบให้เนื่องในวันเกิดของโบเอง อิอิ บอกเลย ว่าเซอร์ไพรส์จริง ๆ อิอิ ที่สำคัญ อาหย่อยยยยยยฝุด ๆ
 | |
|
อธิษฐานอะไรดี. . .ขอให้มีผู้หล่อ ๆ มาจีบบ้างไรบ้าง ไม่ใช่ล่ะ... ขอให้งานไม่ต้องเยอะก็ได้ แต่เงินต้องเยอะ เพี้ยงงงงงงง!
เป่าเทียนเสร็จบอสหยิบอะไรไม่รู้จากกระเป๋า กรี้ดมากค่ะ เซอร์ไพรส์รอบสองอันนี้ของขวัญจากเพื่อนในทีม ตอนแรกจะเก็บไว้แกะที่บ้าน แต่บอสก็ยุใหญ่เลย
แกะเลย! โอเค แกะก็แกะ แกะเสร็จ กรี้ดอีกละค่ะ (จะกรี้ดอะไรบ่อย ๆ ห่ะ!) คือเรื่องของเรื่องตอนวาเลนไทน์ที่ผ่านมา บอสให้งบไปถล่มที่เซโฟร่าคนละ RM100 ตอนนั้นไม่รู้จะเอาอะไร อยากได้น้ำหอมอีไดมอนด์เหลืองนี้นานนมละ แต่มันมีแต่ไซส์แบบ 50 มิลอัพ ราคาปาไป RM200-400 นู้นแหน่ะ เลยเก็บไว้ในใจไปก่อน 555 สงสัยบ่นดังไป เพื่อนในทีมเลยสงเคราะห์ให้ 5555 ตัลล้าคคคคคอ่ะ
 |
| @Marcocretivecuisine / Photo taken by fishmeatdie.blogspot.com |
เก็บตกบรรยากาศในร้าน บอกตง ไม่รู้มาก่อนว่าร้านจะตกแต่งโทนสีเขียวด้วย ช่างเข้ากับธีมเจ้าของวันเกิดซะจริง ๆ 555
เห็นภาพนิ่งไปละ มาดูภาพเคลื่อนไหวกันบ้าง อันนี้นั่งทำวิดีโอแบบเร่งด่วน กลัวอัพไม่ทันวันเกิด จะเห็นได้ว่า มันฟินแค่ไหน 555
 |
| @Marco Creative Cuisine |
สำหรับใครที่มาเที่ยวเคแอลหรือกัวลาลัมเปอร์แล้วมองหาร้านอาหารสุดเอ๊กซ์คลูซีฟสำหรับคนพิเศษอยู่ละก็ กำตังมาคนละ RM78 หรือประมาณ 650-700 บาท ราคารวม GST แล้วด้วย (เฉลี่ยเมนูละ 100-200 บาทเท่านั้น) คุณก็จะได้ลิ้มรสอาหารมัลติคอร์สสไตล์ฝรั่งเศสผ่านฝีมือรังสรรค์ของเชฟผู้มากประสบการณ์ที่ Marco Creative Cuisine
Marco Creative Cuisine อยู่ชั้น G ล็อต G146 (Old Wing) อยู่ในห้างชื่อดัง 1Utama Shopping Centre ย่าน Petaling Jaya เปิดทำการ ตั้งแต่ 11.00 น. - 22.30 น. ตามเวลาประเทศมาเลเซีย
ติดต่อสำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่
โทรศัพท์ : +603 7731-8923อีเมล : reservation@marcocreativecuisine.com
เว็บไซต์ : http://marcocreativecuisine.com/
ทิ้งท้ายไปด้วยรูปเซลฟี่ แบบแฮปปี้เอนดิ้งพร้อมรูปโอ้ปป้าหนุ่มฮอตของบริษัท 555 ไว้ว่าง ๆ เดี๊ยวหาเรื่องมาเขียนต่อ ไปละจ้า บะบุย :*
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Social Icons