สำหรับใครที่เพิ่งหลงเข้ามาบล็อกนี้เป็นครั้งแรก ขอแนะนำตัวสั้น ๆ นิดนึง เจ้าของบล็อกชื่อโบ นะจ๊ะ "เคย" ทำงานออฟฟิตแบบถูกกฏหมายที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียมาเกือบ ๆ 4 ปี ปัจจุบัน (2019) ย้ายถิ่นฐานกลับมาทำงานใหม่ที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสาเหตุหลาย ๆ อย่าง เรื่องค่าเงินด้วย เรื่องอายุและสุขภาพด้วยส่วนนึง 555 ไว้ค่อยขยายความเขียนสาเหตุการย้ายกลับมาอีกทีนึง
บล็อกนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก การถูก Landlord หรือเจ้าของห้องที่ให้เช่า หักเงินค่านู้นค่านี้ เยอะเกินเบอร์ไปมาก ก็เลยไม่อยากให้คนไทยหรือคนอื่น ๆ ที่สนใจจะหาที่พักแบบระยะยาวอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์โดนแบบเราอีก อ่านไว้เป็นภูมิป้องกันก็ยังดี
เท้าความนิดนึงก่อนว่าเนื่องจากล่าสุด ตอนที่เราย้ายสำมะโนครัวกลับไทย (ก.ค. 2019) ซึ่งประจวบเหมาะกับสัญญาคอนโดที่เราเช่าในกัวลาลัมเปอร์นั้นครบ 1 ปีพอดี! เราเช่าห้องแบบ 2 ห้องนอน กับ 1 ชั้นลอย ซึ่งเป็นประเภทยูนิทที่ใหญ่ที่สุดในคอนโดแห่งนี้ แบบสตูดิโอแบบอื่นก็มี
แต่เราเช่ากับเพื่อนอีก 3 คน ใน 1 ยูนิท ซึ่งหมายความว่า 2 ห้องนอนนั้น คือ เราแชร์ห้องใหญ่สุดกับเพื่อนคนนึง แล้วอีกคนอยู่ห้องเล็ก ส่วนอีก 1 คน นอนชั้นลอย (มีบันไดขึ้นไป เปิดโล่ง ข้างล่างมีประตูปิด เป็นโต๊ะทำงานและราวตากผ้า)
เท้าความนิดนึงก่อนว่าเนื่องจากล่าสุด ตอนที่เราย้ายสำมะโนครัวกลับไทย (ก.ค. 2019) ซึ่งประจวบเหมาะกับสัญญาคอนโดที่เราเช่าในกัวลาลัมเปอร์นั้นครบ 1 ปีพอดี! เราเช่าห้องแบบ 2 ห้องนอน กับ 1 ชั้นลอย ซึ่งเป็นประเภทยูนิทที่ใหญ่ที่สุดในคอนโดแห่งนี้ แบบสตูดิโอแบบอื่นก็มี
แต่เราเช่ากับเพื่อนอีก 3 คน ใน 1 ยูนิท ซึ่งหมายความว่า 2 ห้องนอนนั้น คือ เราแชร์ห้องใหญ่สุดกับเพื่อนคนนึง แล้วอีกคนอยู่ห้องเล็ก ส่วนอีก 1 คน นอนชั้นลอย (มีบันไดขึ้นไป เปิดโล่ง ข้างล่างมีประตูปิด เป็นโต๊ะทำงานและราวตากผ้า)
เล่าไปเดียวอาจจะไม่เห็นภาพเท่าไหร่ ขอเท้าความของห้องแต่ละประเภทก่อนละกัน
ประเภทห้องพักที่กัวลาลัมเปอร์
โดยห้องพักที่มาเลเซียส่วนใหญ่ จะแบ่งเป็น 2 แบบ ตามบัทเจทของคนเช่าล้วน ๆ จ้า
1. แบบแชร์ จะเป็นการเช่าแบบแชร์กับอื่นในยูนิท ซึ่งยูนิทนึง อาจจะมีมากถึง 3-6 ห้อง (เคยเจอมากสุด 6 ห้องในยูนิทเดียว อันนี้แล้วแต่ความหน้าเลือดของ Landlord ล้วน ๆ) แต่ละห้องก็ขึ้นอยู่กับไซส์ เฟอร์นิเจอร์ คอนดิชั่นแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้า หรือถ้าโชคดีหน่อยก็ลองหาในกลุ่ม Thais in Malaysia (คนไทยในมาเลเซีย) ซึ่งจะมีคนไทย หรือไทยมุสลิมมาปล่อยห้องว่างบ่อย ๆ
โดยแบบมาตราฐานทั่วไป คอนโดใหม่ ๆ จะมี 2-3 ห้องใน 1 ยูนิท หรือถ้าแบบพวกแฟลท 4-6 ห้องก็มี แล้วขนาดของห้องในยูนิทหลัก ๆ ก็มี 3 ขนาด ได้แก่
โดยแบบมาตราฐานทั่วไป คอนโดใหม่ ๆ จะมี 2-3 ห้องใน 1 ยูนิท หรือถ้าแบบพวกแฟลท 4-6 ห้องก็มี แล้วขนาดของห้องในยูนิทหลัก ๆ ก็มี 3 ขนาด ได้แก่
- Master Room จะเป็นห้องที่ใหญ่สุดของยูนิท และส่วนมากจะมีห้องน้ำในตัว ราคาก็จะแพงกว่าห้องไซส์เล็กกว่าอยู่แล้ว เตียงนอนก็จะเป็นแบบ King Size ไปเลย (ส่วนใหญ่นะ แต่ที่นี่ที่เราจะพูดถึงเนี่ยได้แค่ Queen จ้า TT) ราคาตามใจกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ก็จะ RM1,000-1800 อัพไปเลย ยิ่งใกล้รถไฟยิ่งแพงขึ้น
ประสบการณ์ที่เคยอยู่ Master Room มา ⥤ ที่แรกเลย แชร์กับเพื่อน อยู่แถว Taman Desa นั่งรถบัสประมาณ 15 นาที ถึง Mid Valley (ถ้ารถไม่ติด) ค่าห้อง RM600 ตกคนละ RM300 ไม่รวมน้ำไฟ อินเตอร์เน็ตเล่นกับมือถือเอา โดยรวมโอเค สัญญา 6 เดือน เพราะขอต่อรองว่าถ้าหากงานไม่โอเคจะกลับไทยเลย แลนด์ลอร์ดก็โอเค อันนี้ได้ค่ามัดจำคืนครบ!
ปล. แลนด์ลอร์ดเป็นทนาย 555 (เค้าคนนี้จะมามีส่วนเกี่ยวข้องในหัวข้อบล็อกนี้ด้วย เตรียมรออ่านนะ)
⥤ ที่ 2 คือ เหมาเช่าทั้งยูนิท แล้วแบ่งกับเพื่อน มี 4 ห้องนอน กว้างมากกกกกกกกก เราก็เลยเอาห้องมาสเตอร์ นอนคนเดียว สุดหรู เฟอร์ครบ ห้องน้ำกว้าง ครัวใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟ แต่ไกลจากตัวเมืองมากกกกกก จะเข้าเมืองแต่ละที ต้องนั่งรถไฟประมาณ 40 นาที ทั้งยูนิท พันกว่า ๆ จำไม่ได้ แต่ห้องเรา RM650 ไม่รวมน้ำไฟ ติดอินเตอร์เน็ตกันเอง ทนอยู่มาครบปีแล้วย้าย จริง ๆ ที่นี่โอเคมาก ๆ กับราคา แต่ค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน วันไหนตื่นสาย นั่ง Grab ไปกลับที่ทำงาน RM40 เสียเวลาเดินทางเกือบชั่วโมง ย้ายดีกว่า >< อันนี้ได้ค่ามัดจำคืนครบ
⥤ ที่ 3 อันนี้คือตั้งใจจะหาใกล้ที่ทำงานแถวรถไฟฟ้าบางซา แต่เช็คหลาย ๆ ที่แล้ว มีห้องนี้ว่างและพร้อมเข้าอยู่เลยทันที ห้องนี้เดิน 10 นาทีถึง KL Sentral เลย ซึ่งตอนไปดูห้องมีคนอยู่แค่ 2 ห้อง เฟอร์ก็ค่อนข้างเก่า แล้วข้าง ๆ ก็เป็นวัดแขก ซึ่งทำพิธีแทบจะทุกวัน แต่ ณ จุดนั้นคือไม่มีช้อยส์แล้ว ก็เลยจ่ายมัดจำแล้วก็ย้ายเลย อันนี้ถึงเป็น Master Room แต่ไม่มีห้องน้ำในตัวนะ เจ้าของเค้าซอย ๆ ห้อง กั้นด้วยไม้บาง ๆ จะได้หาคนเช่าได้เยอะ ๆ สรุปอยู่ไปอยู่มา คนในยูนิทนั้นมีทั้งหมด 9 คน! ช็อคมากกกกกกกกกก บางวันเปิดประตูไปทำกับข้าว เจอใครไม่รู้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอยู่ห้องไหน ค่าไฟก็แพงมาก บางห้องเค้าทำงานกลางคืน กลับมานอนกลางวัน เปิดแอร์ทั้งวัน บิลมาตกคนละ rm100+ ทั้ง ๆ ที่บางห้องก็ไม่มีแอร์ด้วยนะ แต่ต้องจ่ายแชร์เท่ากัน ห้องที่อยู่คือ RM1450 แชร์ 2 คน ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต อันนี้ทนอยู่ไม่ได้ 7 เดือน ย้ายออก ไม่ได้ค่าอะไรคืนทั้งนั้น
- Medium Room จะเป็นห้องกลาง ที่ไซส์ถัดจากห้องใหญ่ลงมา ส่วนใหญ่จะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องไปใช้ห้องน้ำที่อยู่นอกห้อง หรือห้องน้ำรวม (ถ้ามีห้องน้ำในตัว อาจจะเรียกเป็น Master Room 2 ราคาพอ ๆ กับห้องใหญ่งี้) ราคาห้องกลางก็จะต่ำกว่า Rm1,000 ลงมา
- Small Room ห้องที่มีขนาดเล็กสุดในยูนิท ใช้ห้องน้ำรวม หรือในยูนิทใหญ่ ๆ ห้องไซส์เล็กสุดอาจจะใหญ่กว่าห้องไซส์ใหญ่สุดของบางยูนิทนะเออ 555 โดยเฉพาะคอนโดรอบนอกเมืองหน่อย แต่ถ้าห้องเล็กใจกลางเมือง บางทีเปิดประตูไปก็ถึงเตียงเลยงี้ (แล้วแต่ทำเล และราคานะจ๊ะ)
ประสบการณ์ที่เคยอยู่ Small Room มา ก็เล็กจริง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเก็บของหรือ Storage Room ซึ่งก็ใหญ่พอที่จะใส่เตียงสองชั้นเหมือนเตียงหอพักไว้ได้ โต๊ะพับ แล้วก็ตู้เสื้อผ้าอีเกีย ซึ่งเรานอนเตียงบน ส่วนเตียงล่างไว้วางของ 555 ห้องน้ำรวม ห้องนี้แค่ RM350 เองรวมหมดแล้ว เพราะเป็นห้องพัดลม ห้องน้ำรวม มีอินเตอร์เนต คือ ตอนนั้นมีเงินเก็บ กลับไทยบ่อยเป็นว่าเล่น มีห้องเอาไว้ซุกหัวนอนจริง ๆ นั่งรถบัสไปทำงานแค่ 2 ป้ายรถเมล์ RM1.10 เองแกร สัญญา 1 ปี แต่เราอยู่ไม่ถึงเพราะลาออกแล้วกลับไทยเลย บอกล่วงหน้าแค่ 2 อาทิตย์ แต่ปรากฎว่าเจ้าของห้องใจดี คืนเงินมัดจำให้สองเดือนเลย ตอนแรกคือ ทำใจแล้วว่าคงไม่ได้คืน
2. แบบสตูดิโอ หรือเหมาเองทั้งยูนิท ไม่แชร์กับใคร แบบนี้เหมาะกับใครที่ตังถึง แล้วก็ไม่อยากอยู่รวมกับใคร
ซึ่งที่เราเช่า ๆ มาก็จะเป็นแบบแชร์ล้วน ๆ เลย เอาตรง ๆ คือเสียดายตังถ้าหากจะจ่ายแล้วอยู่แบบสตูดิโอ หรือเหมายูนิทอยู่คนเดียว เพราะสตูดิโอส่วนใหญ่ก็ พันกว่าอัพ โดยเฉพาะในตึกที่เราอยู่ สตูดิโอเปล่า ๆ เริ่มต้น RM1800 - RM2800 เลย เราเลยคิดว่า ควรเก็บตังส่วนนี้ไปเที่ยวรอบโลกดีกว่า 555
ที่นี่มาถึงยูนิทเจ้าปัญหากัน สาเหตุหลัก ๆ ที่เลือกย้ายมาที่คอนโดนี้
1. ใกล้ที่ทำงาน คืออยู่ตรงข้ามตึกออฟฟิตเลย แค่เดินข้ามสะพาน 10 นาที ถึงหน้าออฟฟิต
2. ใกล้สถานีรถไฟ LRT เพราะสถานีอยู่กึ่งกลางระหว่างคอนโด กับตึกออฟฟิตเลย
3. ตึกเพิ่งสร้างเสร็จปี 1 มีห้องยิมส์ สระว่ายน้ำ ห้องซาวน์น่า สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เพื่อน ๆ อีก 3 คนที่เหลือก็โอเค อยากแชร์ยูนิทด้วย ที่นี่ก็เลยตระเวนหาเอเย่นต์ ที่ลงประกาศให้เช่าห้องที่คอนโดแห่งนี้
หาที่พักในกัวลาลัมเปอร์ได้ที่ไหน?
สำหรับใครที่มีแพลนจะย้ายมาหางานทำที่นี่ หรือหาที่พักที่นี่ สามารถหาประกาศห้องให้เช่าได้จาก- iBilik เว็บไซต์เบสิคของคนที่หาห้องพักที่นี่ มีแบบเป็นห้องแชร์ สตูดิโอ ระยะสั้น หรือเหมายูนิท จะหาห้องไว้อยู่เอง หรือจะมาหาคนเช่า ก็เว็บนี้ได้เลย เคยหาห้องได้จากที่นี่เหมือนกัน
- PropertyGuru เว็บนี้ส่วนใหญ่จะเน้นทั้งยูนิท สตูดิโอ บ้าน ซึ่งเราได้ยูนิทเจ้าปัญหานี้จากเอเย่นต์ที่เว็บนี้
- Co-Coon เห็นหลายคนมารีวิวอยู่ว่ามันโอเค แต่ส่วนตัวไม่เคยใช้บริการเหมือนกัน เป็นแนวคล้าย ๆ co-working แต่เป็น co-living แทน ใครสนใจลองหารายละเอียดที่เว็บได้เลยเน้อ
ส่วนตัวที่เคยใช้มาและขอแนะนำก็แค่ 2 ตัวนี้พอ พวกเว็บอื่น ๆ เคยลองโพสหา แล้วก็ลองหาที่พักมา แต่ 90% คือสแกมเมอร์ จะโทรมาขอมัดจำห้องบ้างล่ะ ทำเป็นสนใจห้องบ้างละ อย่าโอนค่ามัดจำไปก่อน ถ้าไม่เห็นห้องจริง ๆ ถึงไปเห็นห้องจริง ๆ ก็ต้องขอเอกสารความเป็นเจ้าของห้องดูก่อน เพราะมีหลายเคสแล้วนะ ที่โดนสแกมเมอร์หลอกให้ไปดูห้อง Airbnb แล้วก็หลอกให้โอนมัดจำให้ แล้วหายตัวไป
ต้องเตรียมเงินค่าเช่าแรกเข้าประมาณเท่าไหร่?
สำหรับใครที่ไม่เคยไปมาเลเซียมาก่อนเลย หรือจะหาที่พักแบบระยะยาวครั้งแรก การจ่ายค่าแรกเข้าของที่นี่จริง ๆ ก็คล้าย ๆ กับที่ไทยบ้านเรานะ อันนี้แชร์จากประสบการณ์จริงของเราที่เคยเจอมา คร่าว ๆ ก็จะมี
- Security Deposit ~ ค่าประกัน 2-3 เดือน บางที่มีเดือนเดียว อันนี้พิจารณาดี ๆ หน่อยนะ ว่าเจ้าของเขารีบปล่อยห้อง หรือเป็นห้องที่มีปัญหา เพราะส่วนใหญ่ที่เจอเองและฟังเพื่อนๆ เล่ามา ถ้าเจ้าของห้องเป็นคนจีน จะเคี่ยวมาก ๆ มัดจำถือเป็นเรื่องสำคัญ และส่วนใหญ่ถึงแม้ว่าเราจะดูแลห้องให้ดีแค่ไหน สุดท้ายก็จะโดนหักเงินส่วนนี้อยู่ดี >< รออ่านตอน 2 มีดราม่ารอ
- Advanced Rental ~ ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน
- Utility Deposit ~ ถ้าเป็นแบบคอนโดใหม่ ๆ อาจจะมีค่า หรือค่าใช้/เสื่อมของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เจ้าของให้มาพร้อมกับกับห้องที่เช่า อันนี้ที่เจอมาคือ 0.5 เดือน
- Tenancy Agreement ~ ค่าทำสัญญา อันนี้กรณีผ่านเอเย่นต์ ที่เคยจ่ายไปคือ RM440 บาท
- ถ้าเช่าผ่านเอเย่นซี่ก็จะมีค่า Stamp (แล้วแต่ขนาดห้องแล้วก็เรทของคอนโดนั้น ๆ) ประมาณ RM100
- ค่าคีย์การ์ด บางที่ก็ฟรี เจ้าของมีให้แล้ว นอกจากจะเป็นคอนโดใหม่จริง ๆ อันนี้อาจจะต้องจ่าย
ถ้าโดยทั่วไปแล้ว สมมติว่าเราจะเช่าห้อง Master Bedroom ในยูนิตที่เจ้าของตั้งราคาไว้ RM1,000 ต่อเดือน ฉะนั้น เงินแรกเข้าก่อนแรกก็จะอยู่ที่
- ค่าประกัน สมมติ 2 เดือน ~ RM1,000*2
- ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน ~ RM1,000
ถ้าแบบห้องธรรมดาทั่วไปไม่ผ่านเอเย่นต์ก็จะต้องเตรียมเงินแรกเข้าอยู่ที่ RM3,000 ทั้งนี้ ดูคอนดิชั่นอื่น ๆ เพิ่มด้วย อาทิเช่น ค่าห้องไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เนต? ค่าที่จอดรถ (ถ้ามี)
แต่ถ้าเป็นห้องคอนโดแบบใหม่ เหมาทั้งยูนิตแบบที่เราเกริ่นไปทางข้างบน แบบ Full Option จัดเต็มทุกอย่าง สมมติค่ายูนิตคือ RM3,000 ต่อเดือน ฉะนั้น เงินแรกเข้าก่อนแรกก็จะอยู่ที่
- ค่าประกัน 2 เดือน ~ RM3,000*2
- ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน ~ RM3,000
- ค่า Utility 0.5 เดือน ~ RM1,500
- ค่า Tenancy Agreement ~ RM440
- ค่า Stamp ~ RM160
- ค่าคีย์การ์ด ~RM100
รวมแล้วเงินแรกเข้าของยูนิตที่เราเคยอยู่ จะจ่ายที่ RM11,200 นั่นเอง
ได้สูตรแล้ว ก็ลองไปคำนวณเงินที่ต้องเตรียมมาเช่าห้องกันนะ หลัก ๆ ก็มีประมาณนี้ สำหรับบล็อกนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลที่พักในกัวลาลัมเปอร์แบบระยะยาวนะ เดี๋ยวตอนที่ 2 จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระวัง และต้องเช็คก่อนทำสัญญา จะได้ไม่พลาดเหมือนเรา TT
ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เราพูดถึง ถามเพิ่มเติมมาได้นะ
ไว้เจอกันตอนที่ 2 จ้า
ได้สูตรแล้ว ก็ลองไปคำนวณเงินที่ต้องเตรียมมาเช่าห้องกันนะ หลัก ๆ ก็มีประมาณนี้ สำหรับบล็อกนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลที่พักในกัวลาลัมเปอร์แบบระยะยาวนะ เดี๋ยวตอนที่ 2 จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระวัง และต้องเช็คก่อนทำสัญญา จะได้ไม่พลาดเหมือนเรา TT
ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เราพูดถึง ถามเพิ่มเติมมาได้นะ
ไว้เจอกันตอนที่ 2 จ้า
บ๊ะบาย,
แสดงความคิดเห็น